จักรยานไฟฟ้าคืออย่างไร

มีดีอย่างไรถึงควรสนใจ

1.ง่ายต่อการใช้งาน – จักรยานไฟฟ้ามีองค์ประกอบที่ไม่ซับซ้อนเหมือนมอเตอร์ไซค์ ดูแลเพียงแค่ลมยาง โซ่จักรยาน แบตเตอรี่ เบรก แต่ยกระดับการเคลื่อนที่ได้สะดวกกว่า โดยเฉพาะในหมู่บ้าน ในละแวกซอยหรือที่อยู่อาศัย ที่ไม่ไกลมาก

2.ประหยัดและรักษ์โลก – จักรยานประเภทนี้ใช้พลังงานจากไฟฟ้า ซึ่งแม้การสร้างไฟฟ้าอาจใช้องค์ประกอบที่กระทบสิ่งแวดล้อม แต่ระดับการสร้างผลกระทบของยานพาหนะนี้ เทียบกับการใช้น้ำมันแล้วก็แตกต่างอย่างมาก เพราะน้ำมันมีการเผาไหม้ขณะใช้งานตลอด ในขณะที่ไฟฟ้าประหยัดกว่าแน่นอน

3.คล่องตัวต่อการไปไหนต่อไหน – ตัวจักรยานสามารถพับให้เล็กลงเหมือนจักรยานพับได้ทั่วไป ช่วยให้ไปในทุกๆ ที่ได้อย่างคล่องตัว จะหิ้วขึ้นรถไฟหรือรถแท็กซี่ แล้วใช้จักรยานพับขับต่อไปยังปลายทางก็สะดวก

4.สนุกและปลอดภัย – จะมีอะไรสนุกไปกว่าการใช้ความเร็ว ลมปะทะหน้า มีจังหวะเร่งให้ตื่นตัว ขณะเดียวกันก็ไม่เสี่ยงจนเกินควบคุมด้วย

ข้อคำนึงก่อนเลือกซื้อ

รูปแบบการขับเคลื่อน

     ข้อควรทราบอย่างหนึ่งที่ทำให้ตัวจักรยานแตกต่างกัน นอกจากภายนอก คือ รูปแบบการขับเคลื่อน ซึ่งถ้าเลือกผิดก็อาจหงุดหงิดเอาได้ง่ายๆ โดยรูปแบบที่ว่า มี 3 รูปแบบ ดังนี้

1.Pedal-assisted : จักรยานพร้อมระบบช่วยขับ ถือเป็นจักรยานไฟฟ้าแบบหนึ่ง ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานทดแทนการใช้เท้าถีบปั่น แต่เป็นการเติมแรงขับเคลื่อนแทน จะทำงานก็ต่อเมื่อออกแรงปั่นเท่านั้น เมื่อไม่ออกแรง มอเตอร์ก็จะไม่ทำงาน

2.Power-on-demand : จักรยานรูปแบบนี้มีแนวคิดผสมระหว่างทรงจักรยาน แต่มีตัวคันเร่งให้ใช้งานซึ่งสามารถบิดได้ประหนึ่งมอเตอร์ไซค์ ไม่ต้องใช้เท้าถีบ เพียงวางเท้าไว้เฉยๆ ได้เลย ซึ่งสะดวกกับผู้ที่ไม่อยากออกแรงถีบ

3.Pedal-assisted ผสม power-on-demand : เป็นจักรยานที่ผสมทั้งสองรูปแบบ ทั้งใช้คันเร่งได้ หรือให้มอเตอร์ทำงานเมื่อถีบปั่นจักรยานก็ได้

แบตเตอรี่

     ตัวแปรสำคัญที่ทำให้จักรยานไฟฟ้าแจ้งเกิดได้เฉิดฉายดั่งทุกวันนี้ คือการพัฒนาแบตเตอรี่ให้เล็กพอ แต่ขับเคลื่อนได้เป็นระยะทางหลับสิบๆ กิโลเมตร ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 รูปแบบใหญ่ ดังนี้

1.Lead–acid Battery : แบตเตอรี่ตะกั่วกรด แบบเดียวกันกับที่พบได้ในรถยนต์ทั่วไป หรือเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ ข้อดีคือมีราคาถูกมาก แต่อายุการใช้งานสั้น โดยเฉพาะเมื่อปล่อยทิ้งไว้หลายเดือน ระยะทางขับต่อรอบชาร์จต่ำและเสี่ยงอันตรายกรณีเกิดการแตกหัก เหมาะกับผู้มีงบประมาณจำกัด ใช้งานไป-กลับไม่ไกล ใช้ค่อนข้างบ่อย และสะดวกรีชาร์จมันบ่อยๆ

2.Lithium Battery : แบตเตอรี่ลิเธียม ซึ่งอาจมีสารใดๆ ผสมกับแร่ลิเธียม ข้อดีคือมอบกระแสไฟฟ้าที่ค่อนข้างคงที่กว่า มีอายุการใช้งานนานกว่า ไม่เสื่อมอายุง่ายเมื่อไม่ใช้งาน น้ำหนักเบากว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรดเป็นอย่างมาก แต่ถ้าผลิตไม่ดีอาจเสี่ยงต่อการเกิดระเบิดได้ และมีราคาสูง เหมาะกับผู้ใช้จักรยานไฟฟ้าแบบพับ ผู้ที่ไม่ค่อยได้ขับ และผู้ที่มักขับในระยะทางไกล

 

     กำลังหาร้านจักรยานไฟฟ้าที่ มั่นใจ ไว้ใจได้ ให้ดูแล บริการหลังการขายกับคุณด้วยนะคะ ถ้ายังหาไม่ได้ แนะนำร้านจักรยานไฟฟ้าแม่บ้านญี่ปุ่น อาโออิ ให้เป็นเพื่อน คอยดูแลคุณ หรือเคียงข้างคนที่คุณรักนะคะ >>ติดต่อสอบถาม<< 

ติดต่อเรา คลิกปุ่มด้านล่าง ได้เลยค่ะ